ช่องว่างในรหัสมอร์สคืออะไร
ช่องว่างในรหัสมอร์สคือความเงียบ ความเงียบนี้สำคัญมากเพราะใช้แยกส่วนต่างๆ ของรหัส หากไม่มีช่องว่าง จะไม่สามารถอ่านรหัสมอร์สได้
มีความยาวของความเงียบ (ช่องว่าง) หลักๆ สามแบบที่ใช้:
- ช่องว่างสั้นๆ ใช้แยกจุดและขีด *ภายใน* ตัวอักษรตัวเดียว
- ช่องว่างขนาดกลางใช้แยกตัวอักษรแต่ละตัว *ภายใน* คำ
- ช่องว่างยาวใช้แยกคำต่างๆ *ภายใน* ข้อความ
ทำไมรหัสมอร์สถึงใช้จุดและขีด
รหัสมอร์สใช้จุด (.) และขีด (-) เป็นส่วนประกอบพื้นฐานสองอย่าง แทนสัญญาณสั้น (จุด) และสัญญาณยาว (ขีด)
ระบบนี้เริ่มมาจากเครื่องโทรเลข ผู้ควบคุมส่งสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณสั้นๆ ทำให้เกิดเสียงคลิกสั้นๆ (จุด) สัญญาณยาวๆ ทำให้เกิดเสียงยาว (ขีด) ระบบสองสัญญาณง่ายๆ นี้ส่งได้ง่ายและเชื่อถือได้ในระยะทางไกล คุณยังสามารถใช้เสียง (บี๊บสั้น, บี๊บยาว) หรือแสง (กะพริบสั้น, กะพริบยาว) เพื่อส่งรหัสมอร์สได้
ทำไมตัวอักษรรหัสมอร์สมีความยาวต่างกัน
คุณอาจสังเกตเห็นว่าตัวอักษรในรหัสมอร์สใช้จำนวนจุดและขีดต่างกัน ซึ่งต่างจากรหัสไบนารีของคอมพิวเตอร์ ที่แต่ละตัวอักษรมักใช้พื้นที่เท่ากัน (เช่น 8 บิต)
รหัสมอร์สถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพ ตัวอักษรที่ใช้บ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษมีรหัสสั้นที่สุด ตัวอย่างเช่น:
- 'E' E คือจุดเดียว:
.
- 'T' T คือขีดเดียว:
-
ตัวอักษรที่ใช้น้อยกว่า เช่น 'Q' (--.-
) หรือ 'Z' (--..
) มีรหัสยาวกว่า การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้คนส่งข้อความได้เร็วขึ้นเพราะใช้รหัสสั้นๆ บ่อยที่สุด หลักการนี้ใช้กับรหัสมอร์สภาษาไทยเช่นกัน โดยตัวอักษรและสระที่ใช้บ่อยมักมีรหัสสั้นกว่า
จังหวะและช่องว่างเป็นอย่างไร
จังหวะที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้รหัสมอร์สเข้าใจได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความยาวของหนึ่งจุด
นี่คือกฎจังหวะพื้นฐาน:
- ขีด ยาวเป็นสามเท่าของจุด
- ช่องว่าง ระหว่างจุดและขีด *ภายใน* ตัวอักษรมีความยาวเท่ากับหนึ่งจุด
- ช่องว่าง ระหว่างตัวอักษร *ภายใน* คำมีความยาวเท่ากับสามจุด
- ช่องว่าง ระหว่างคำมีความยาวเท่ากับเจ็ดจุด
การปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ช่วยให้ผู้รับข้อความสามารถแยกความแตกต่างระหว่างตัวอักษรและคำได้อย่างถูกต้อง